3 เคล็ดลับดูแลผิวเด็กแรกเกิดที่มีผิวแพ้ง่ายฉบับป้าหมอ

         “ผิวหนังเปรียบเสมือนกำแพงด่านหน้าที่คอยปกป้องร่างกายจากภายนอก รวมถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ผิวหนังที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มักจะถูกเปรียบเปรยว่า มีความนุ่มนวลและดูอ่อนเยาว์เหมือนกับผิวหนังของเด็กทารก ทว่าผิวหนังของทารกเป็นผิวหนังที่ดีที่สุดหรือเป็นผิวหนังในอุดมคติจริงหรือ

         หากความอ่อนเยาว์หมายถึงความงดงาม ก็คงจะใช่ แต่ความเป็นจริงแล้ว ผิวหนังของทารกนั้นเปราะบาง การยึดติดกันของเซลล์ยังไม่แข็งแรงมาก ทำให้ง่ายต่อการถูกทำลายจากสภาวะแวดล้อม เช่น อุณหภูมิความร้อนความเย็น ความแห้งหรือความชื้นของอากาศ สารเคมีจากผลิตภัณฑ์อาบน้ำ โลชั่น และน้ำยาซักผ้าที่ใช้ ผิวหนังของลูกยังต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปีจึงจะมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะปกป้องสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายได้เท่า ๆ กับผิวหนังของผู้ใหญ่ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกควรได้รับการดูแลผิวหนังที่ถูกต้องตั้งแต่แรกเกิด

         เด็กทารกบางคนมีผิวหนังแนวโน้มแพ้ง่าย สังเกตได้คือ มักจะมีผิวที่ค่อนข้างแห้ง แสบคันง่าย ลูบแล้วสาก หรือเป็นผื่นขึ้นง่ายเมื่อสัมผัสกับสบู่เหลว โลชั่น น้ำบาดาล คลอรีน น้ำหอม น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือเป็นรอยแดงง่ายตรงตำแหน่งที่มีการกดทับหรือสัมผัสอยู่เป็นเวลานาน เช่น บริเวณขอบผ้าอ้อมสำเร็จรูป การดูแลผิวหนังจึงควรได้รับการเอาใจใส่มากขึ้นเป็นพิเศษเพื่อทำ ‘กำแพงผิว’ ให้แข็งแกร่ง ลูกรักจะได้รู้สึกสบายตัว ไม่งอแง มีอารมณ์และพัฒนาการดี

คุณพ่อคุณแม่จึงควรเรียนรู้วิธีการดูแลผิวลูกน้อยที่ถูกต้อง ดังนี้

1) อาบน้ำเท่าที่จำเป็น ไม่ควรเกินวันละ 2 ครั้ง อย่าอาบนานเกินไป ควรใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที อย่าปล่อยเล่นน้ำ เล่นเป็ดยาง เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนไม่ควรเล่นน้ำสระคลอรีน เพราะแรงเกินไป ทำให้ผิวแห้ง คัน ระคายเคืองตามมา ไม่อาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น ให้อาบน้ำปกติอุณหภูมิห้อง เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง ถ้าลูกไม่ได้ไปเล่นนอกบ้าน ไม่ควรใช้สบู่ที่มีค่าความเป็นด่างสูง สามารถใช้สบู่เหลวเด็กที่มีค่า pH เข้ากับผิวเด็ก เพราะจะไม่ทำลายความชุ่มชื้นผิว ไม่ควรเลือกที่มีน้ำหอมฉุน หรือติดผิวนานเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

2) ห้ามใช้ฟองน้ำถูตัวลูก ให้ใช้มือ หรือผ้านุ่ม ๆ ผืนเล็ก ๆ ลูบเบา ๆ
3) ทาครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวสำหรับเด็กทุกครั้งหลังอาบน้ำ และนวดเบา ๆ ให้เนื้อครีมซึมเข้าไปในผิวอย่างเต็มที่ โดยหลังอาบน้ำเสร็จ ให้ซับผิวลูกด้วยผ้าขนหนู ซับแค่พอหมาด ๆ อย่าใช้วิธีเช็ดหรือถูจนตัวลูกแห้งสนิท เพราะถ้าถูหรือเช็ดแรง ผิวลูกจะถลอก และถ้าผิวแห้งเกินไปจะดูดซับโลชั่นได้ไม่ดี ให้ทาโลชั่นทันทีภายหลังจากอาบน้ำเสร็จภายใน 3 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่โลชั่นจะดูดซึมเข้าผิวดีที่สุด ผิวลูกจะได้รับความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว ดีกว่าปล่อยให้อาบน้ำเสร็จไปสักครู่แล้วจึงค่อยทา

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวที่มีแนวโน้มแพ้ง่าย มีหลักดังนี้

• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเอกสารรับรอง และผ่านการทดสอบทางผิวหนังจากศูนย์วิจัยคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น พาราเบน พาทาเลต สเตียรอยด์
• คำว่า ‘ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ’ หรือ ‘ออร์แกนิก’ ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่แพ้เสมอไป เพราะว่าผลิตภัณฑ์นั้นอาจมีส่วนผสมบางอย่างที่เป็นออร์แกนิก แต่ยังมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวผสมอยู่ด้วย เช่น น้ำหอมที่มีกลิ่นติดผิวนาน ๆก็ทำให้ผิวที่บอบบางของลูกน้อยแพ้ระคายเคืองได้ ดังนั้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์แล้วให้สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ผื่น แดง คัน ระคายเคือง ผิวแห้งลอก
• สำหรับคุณพ่อคุณแม่ของเด็กที่มีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากต้องใกล้ชิด และสัมผัสลูกบ่อย ๆ เพื่อไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวของลูก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายหรือทางที่ดีก็ใช้ผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกไปเลย”

คำแนะนำโดยพญ. สุธีรา

Aveeno เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวปกติและผิวที่อาจมีแนวโน้มแพ้ง่าย ทำให้ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ พร้อมปกป้องผิวบอบบาง 24 ชั่วโมง เพราะมีพรีไบโอติกโอ๊ตจากธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างเกราะปกป้องผิว ไม่มีส่วนผสม น้ำหอม สเตียรอยด์ พาราเบน และสีสังเคราะห์